ดาวเนปจูน (Neptune)
ดาวเนปจูนเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์ที่สุดตามนิยามดาวเคราะห์ใหม่ที่ไม่จัดดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์ ดาวดวงนี้ถูกค้นพบครั้งแรกด้วยการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เนื่องมาจากมีเหตุการณ์ที่วงโคจรของดาวยูเรนัสมีความผิดปรกติ นักวิทยาศาสตร์จึงสงสัยว่า จะต้องมีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่มีแรงดึงดูดสูงพอที่จะเปลี่ยนเส้นทางการโคจรของดาวยูเรนัสได้ ผลที่ได้ก็คือ การค้นพบดาวเนปจูนโดยนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ เออร์เบน โจเซฟ ลี เวอเลียร์ (Urbain Joseph Le Verrier) เป็นผู้คำนวณและส่งผลไปไห้นักดาราศาสตร์เยอรมันชื่อ โจฮัน ก็อทฟรีด กาลล์ (Johann Gotfried Galle) เพื่อส่องกล้องหาดาวเคราะห์ตามตำแหน่งที่ได้คำนวณไว้ ซึ่งเขาสามารถพบดาวเนปจูนในคืนแรกของการสำรวจ ดาวเนปจูนมีสีน้ำเงินเข้มซึ่งเกิดจากมีเทนและธาตุอื่นซึ่งยังไม่เป็นที่เข้าใจของนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน สนามแม่เหล็กของดาวเนปจูนมีลักษณะแปลกเช่นเดียวกับดาวยูเรนัสคือมีแกนสนามแม่เหล็กเอียงออกมาจากแกนการหมุนรอบตัวเองถึง 47 องศา และมีสภาพสนามแม่เหล็กที่ซับซ้อน ขณะนี้เราค้นพบดาวบริวารของดาวเนปจูนจำนวน 13 ดวง ดาวบริวารที่ใหญ่ที่สุดของดาวเนปจูน คือ ไทรทัน (Triton) ซึ่งเป็นวัตถุที่เย็นที่สุดเท่าที่เคยพบมาในระบบสุริยะ (อุณหภูมิผิวประมาณ -235 องศาเซลเซียส)
ดาวเนปจูนหรือดาวเกตุ ( Neptune )
อยู่ห่างไกลมากจึงมองเห็นเพียงเป็นจุดสว่างสีน้ำเงินจาง ๆ สีน้ำเงินของดาวเนปจูนเกิดจากก๊าซมีเทนในบรรยากาศ ซึ่งให้สีน้ำเงิน นอกจากนี้ในบรรยากาศยังมีไฮโดรเจน ฮีเลียม และไอน้ำ
ใต้บรรยากาศที่หนาทึบและเต็มไปด้วยเมฆ ดาวเนปจูนอาจประกอบด้วยส่วนผสมของหิน น้ำ แอมโมเนียเหลวและมีเทน
อยู่ห่างไกลมากจึงมองเห็นเพียงเป็นจุดสว่างสีน้ำเงินจาง ๆ สีน้ำเงินของดาวเนปจูนเกิดจากก๊าซมีเทนในบรรยากาศ ซึ่งให้สีน้ำเงิน นอกจากนี้ในบรรยากาศยังมีไฮโดรเจน ฮีเลียม และไอน้ำ
ใต้บรรยากาศที่หนาทึบและเต็มไปด้วยเมฆ ดาวเนปจูนอาจประกอบด้วยส่วนผสมของหิน น้ำ แอมโมเนียเหลวและมีเทน
เนปจูน เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่ 8 จาก ดวงอาทิตย์และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ (โดยเส้นผ่านศูนย์กลาง) เนปจูนมีเส้นผ่านศูนย์กลางสั้นกว่าดาวยูเรนัส แต่มีมวลมากกว่า
วงโคจร: 4,504,000,000 ก.ม. (30.06 AU) จากดวงอาทิตย์ เส้นผ่านศูนย์กลาง: 49,532 ก.ม. (เส้นศูนย์สูตร) มวล: 1.0247 x 1026 ก. ก. ในปี 1846 ชาวเยอรมันชื่อ Johann Galle ได้พบโลกใหม่ด้วยกล้องโทรทัศน์ขนาดใหญ่ มันอยู่ในตำแหน่งที่นักดาราศาสตร์คนอื่นได้ระบุไว้ก่อนแล้ว ดาวเคราะห์ดวงใหม่มีสีน้ำเงินมีชื่อว่าดาวเนปจูนตามชื่อเทพเจ้าแห่งทะเล เนื่องจากวงโคจรของ ดาวพลูโต เป็นวงรีมาก, บางครั้งมันจะตัดกับวงโคจรของเนปจูน ทำให้เนปจูนเป็นดาวเคราะห์ซึ่งอยู่ใกลที่สุดในบางปี เนปจูน มีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับยูเรนัส: หลายรูปแบบของ " น้ำแข็ง" และหิน ไฮโดรเจน 15% และไฮโดรเจนจำนวนเล็กน้อย คล้ายยูเรนัสแต่ไม่เหมือน ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์, มันไม่มีชั้นภายในที่ชัดเจน มันมีแกนที่เล็ก (มีมวลประมาณเท่าโลก) เป็นวัตถุประเภทหิน บรรยากาศเต็มไปด้วย ไฮโดรเจนและ ฮีเลียม มีมีเทนจำนวนเล็กน้อย
เนปจูน มีสีฟ้า ซี่งเป็นมาจากการดูดกลืนแสงสีแดง โดยมีเทนในชั้นบรรยากาศ เหมือนกับ ดาวเคราะห์แก๊ส โดยทั่วไป, เนปจูนมีลมพัดแรงมาก ซึ่งจำกัดตาม แนวละติจูด และพายุหมุนขนาดใหญ่ ลมของเนปจูนพัดแรงที่สุดในระบบสุริยะ มันมีความเร็วถึง 2,000 ก.ม./ชั่วโมง เช่นเดียวกับดาวพฤหัสบดี และดา เสาร์, เนปจูนมีแหล่งความร้อนภายใน มันแผ่รังสีมากกว่า 2 เท่า ของที่รับจากดวงอาทิตย์
กลุ่มควันน้ำแข็ง
เนปจูนก็มีวงแหวนเช่นกัน การสำรวจจากกล้องโทรทรรศน์บนพื้นโลกแสดง เพียงอาร์ควงกลม แทนที่จะ เป็นวงแหวน, แต่ภาพถ่ายจาก ยานวอยเอเจอร์ 2 แสดงวงแหวนที่สมบูรณ์ และใน บางช่วงจะสว่างเป็นพิเศษ มีวงแหวนวงหนึ่งมีโครงสร้างที่บิดเป็นเกลียวอย่างเห็นได้ชัด (ขวา) เหมือนกับดาวยูเรนัส และ ดาวพฤหัสบดี, วงแหวนของเนปจูนมืด และยังไม่ทราบองค์ประกอบ
วงแหวนของดาวเนปจูนมีชื่อเรียกขาน: วงนอกสุดชื่อ อดัมส์ (ซึ่งประกอบด้วยอาร์ควงกลมสะดุดตา 3 อาร์ค ชื่อ ลิเบอร์ตี้, อีควอลิตี้ และฟราเทอนีตี้). วงถัดเข้ามา ไม่มีชื่อ ใช้วงโคจรร่วมกับ ดวงจันทร์กาลาที, วงถัดมาชื่อ เลอเวอร์เรียร์ (ซึ่งมีส่วนต่อออกไปชื่อ ลาสเซล และอราโก) และวงสุดท้าย บางแต่กว้างชื่อ กัลเล สนามแม่เหล็กของดาวเนปจูน มีรูปทรงประหลาดคล้ายของดาวยูเรนัส บางทีมันอาจกำเนิดจาก การเคลื่อนที่ของวัตถุตัวนำ (ซึ่งอาจเป็นน้ำ) ในชั้นกลางของดาว
นักดาราศาสตร์ได้พบดาวบริวารสองดวงที่หมุนรอบดาวเนปจูน ดาวดวงหนึ่งมีขนาดเล็กชื่อว่า Neried ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 300 ไมล์ และหมุนรอบ ห่างจากดาวเนปจูน 3,475,000 ไมล์ ดาวบริวารดวงอื่นๆของดาวเนปจูนคือดาว Triton มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2,100 ไมล์เป็นดาวบริวารที่ใหญ่เป็นที่สี่ ดาว Triton อาจมีบรรยากาศ มันอาจมีมหาสมุทรมีเธนและไนโตรเจนมันหมุนรอบดาวเนปจูนโดยห่างจากดาวเนปจูนเป็นระยะทาง 220,625 ไมล์ ดาว Triton หมุน รอบดาวเนปจูนในทิศทางตรงกันข้ามจากดาวบริวารส่วนใหญ่ มันยังเคลื่อนไหวเข้าไกล้ดาวเนปจูนในเวลา 10 ล้าน ถึง 100 ล้านปี มันอาจปะทะกับดาวเนปจูน หรือมันอาจแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆและก่อตัวเป็นรูปวงแหวนขนาดกว้างล้อมรอบดาวเนปจูน
ข้อมูลดาวเนปจูน
เส้นผ่าศูนย์กลาง 50,000 กิโลเมตร
มวล (โลก = 1) 17.15 เท่าของโลก
ความหนาแน่นเฉลี่ย 1,640 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร
คาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 165 ปี
คาบการหมุนรอบตัวเอง 16 ชั่วโมง
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์เฉลี่ย 4,500 ล้านกิโลเมตร
เส้นผ่าศูนย์กลาง 50,000 กิโลเมตร
มวล (โลก = 1) 17.15 เท่าของโลก
ความหนาแน่นเฉลี่ย 1,640 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร
คาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 165 ปี
คาบการหมุนรอบตัวเอง 16 ชั่วโมง
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์เฉลี่ย 4,500 ล้านกิโลเมตร
ดาวเนปจูนเป็นดาวเคราะห์ใหญ่เป็นที่ 4 ในระบบสุริยะ จุโลกได้ถึง 60 ดวง โคจรห่างจาก ดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 8 เป็นดาวเคราะห์ก๊าซที่มีองค์ประกอบคล้ายกับดาวยูเรนัส คือ ไฮโดรเจน และฮีเลียม ผสมกับ แอมโมเนีย มีเทนแข็ง โดยมีใจกลางเป็นแกนหินขนาดเท่าโลก เนื่องจากดาวเนปจูนอยู่ไกลจากโลกมาก จนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และต้องใช้ กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่เท่านั้นจึงจะเห็นเป็นจุดริบหรี่ได้ สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับดาวเนปจูนทุกวันนี้ จึงเป็นข้อมูลที่ได้จากยานวอยเอเจอร์ 2 ซึ่งเข้าไปสำรวจ ดาวเนปจูนเมื่อปี
พ.ศ.2532
ตารางแสดงข้อมูลที่สำคัญของดาวเนปจูน
ค้นพบโดย โจฮัน ก็อทฟรีด กาลล์ (Johann Gotfried Galle) | |
ระยะทางโดยเฉลี่ยจากดวงอาทิตย์ | 4,498,252,900 km |
ระยะทางใกล้ที่สุดจากดวงอาทิตย์ | 4,459,630,000 km |
ระยะทางไกลที่สุดจากดวงอาทิตย์ | 4,536,870,000 km |
รัศมีบริเวณเส้นศูนย์สูตร | 24,764 km |
เส้นรอบวงบริเวณเส้นศูนย์สูตร | 155,597 km |
ปริมาตร | 62,526,000,000,000 km3 |
มวล | 102,440,000,000,000,000,000,000,000 kg |
ความหนาแน่นเฉลี่ย | 1.76 g/cm3 |
ค่าความรีของวงโคจร | 0.00859 |
อุณหภูมิยังผล | -214 °C |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น